ในยุคที่ลูกค้าไม่ได้แค่ “มาซื้อของ” แต่ “มาหาประสบการณ์”
การออกแบบร้านในปี 2026 จึงต้องตอบโจทย์ทั้ง ฟังก์ชัน การใช้งาน และอารมณ์ร่วมของแบรนด์
afurlab รวบรวม 5 เทรนด์สำคัญที่เจ้าของร้านและนักออกแบบไม่ควรพลาด
Sustainable Design – ออกแบบอย่างยั่งยืน

ปี 2026 คือปีแห่งความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
วัสดุรีไซเคิล เฟอร์นิเจอร์ไม้ธรรมชาติ และแสงธรรมชาติจะถูกใช้มากขึ้น
ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ และสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ “ใส่ใจโลก”
Experience-Driven Space – ร้านที่เล่าเรื่องได้

ลูกค้าอยาก “รู้สึกบางอย่าง” ตั้งแต่ก้าวแรกเข้าร้าน
การออกแบบปีนี้จึงเน้น “Storytelling Space” — ทุกมุมของร้านต้องมีเรื่องราว
เช่น ร้านกาแฟที่เล่าเรื่องวัตถุดิบจากฟาร์ม, ร้านเสื้อผ้าที่จัดแสงและกลิ่นให้ตรงกับอารมณ์แบรนด์
Flexible Layout – พื้นที่ปรับเปลี่ยนได้

ธุรกิจเปลี่ยนไว แผนผังร้านก็ต้องปรับตามได้
แนวคิด “Modular Design” จะมาแรง — โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวาง หรือเคาน์เตอร์ สามารถเคลื่อนย้ายหรือปรับรูปแบบได้ง่าย
ช่วยให้ร้านสามารถรองรับกิจกรรมหลากหลาย เช่น Workshop, Pop-up หรือมุมขายสินค้าชั่วคราว
Smart Integration – ร้านอัจฉริยะ

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเต็มรูปแบบ
ตั้งแต่ระบบไฟอัตโนมัติที่ปรับตามเวลา, Digital Menu, Self-order kiosk,
ไปจนถึง AI ที่ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อปรับดีไซน์หรือมุมโปรโมชันให้เหมาะสม
Warm Minimalism – เรียบแต่มีชีวิต

หลังจากยุคมินิมอลขาวสะอาด ปี 2026 จะเห็นแนว “Warm Minimal”
ที่ผสมความอบอุ่นผ่านสีเอิร์ธโทน วัสดุไม้ ผ้า และแสงนุ่ม ๆ
ทำให้บรรยากาศร้านรู้สึกสบาย เป็นกันเอง และดูมีตัวตนมากขึ้น
ความเห็น by afurlab
เทรนด์การออกแบบร้านปี 2026 ไม่ได้อยู่ที่ “การตกแต่ง” เท่านั้น
แต่คือการออกแบบประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีและอยากกลับมาอีก
ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ หรือโชว์รูมสินค้า
afurlab พร้อมออกแบบให้ร้านของคุณ “ใช้งานได้จริง สวย และมีเอกลักษณ์”
ครบจบในที่เดียว ตั้งแต่แนวคิดจนถึงการสร้างจริง
